วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ครั้งที่ 5

วันพฤหัสบดีที่ 7กุมภาพันธ์ 2562
เวลา 08:30 - 12:30 น.

          💙ความรู้ที่ได้รับ 

                         การเรียนการสอนในวันนี้เรียนในเรื่อง หลักการจัดกิจกรรมและประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย และวัสดุ อุปกรณ์ สำหรับเด็กปฐมวัยซึ่งเนื้อหามีดังต่อไปนี้


ความสำคัญ

         ศิลปะ เป็นพื้นฐานทางการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย เพราะศิลปะช่วยให้เด็กปฐมวัยมีประสบการณ์ที่หลากหลาย 


-ประสบการณ์ด้านการสำรวจ สิ่งแวดล้อมรอบตัว

-ประสบการณ์ด้านวัสดุ การใช้เครื่องมือต่างๆ
-ประสบการณ์ด้านความรู้สึก และการใช้ประสาทสัมผัส

    
         
         ประสบการณ์เหล่านี้เป็นประสบการณ์ตรง ที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กได้เผชิญกับความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องกับคน สัตว์ พืช สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ









จุดมุ่งหมายในการสอนศิลปะเด็กปฐมวัย

  • การสอนศิลปะไม่ใช่การสอนให้เด็กวาดรูปเก่ง
  • การสอนศิลปะเด็กเป็นการปลูกฝังนิสัยที่ดีงาม 
  • การสอนศิลปะมีจุดมุ่งหมายเพื่อ 

  1. ฝึกทักษะในการใช้มือและเตรียมความพร้อม
  2. ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์พัฒนาความสามารถของเด็กแต่ละคน
  3. พัฒนาทางร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญาและบุคลิกภาพ
  4. ปลูกฝังค่านิยม เจตคติ และคุณสมบัติที่ดีของศิลปะ
  5. ฝึกให้เด็กได้เริ่มต้นเรียนรู้การใช้เครื่องมือทางศิลปะ
  6. ฝึกการทำงานร่วมกันเป็นทีม
  7. เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกอย่างอิสระ สนุกสนาน
  8. นำประสบการณ์ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

บทบาทของครูศิลปะ

ครู คือบุคคลสำคัญที่สุดในการจัดการเรียนการสอนศิลปะ

  • เป็นผู้สร้างบรรยากาศ
  • เป็นผู้ส่งเสริม สนับสนุน
  • เป็นผู้ดูแลเด็กให้สร้างสรรค์งาน
  •  เป็นต้นแบบที่ดี
  •  เป็นผู้อำนวยความสะดวก            



ข้อควรคำนึงในการสอนศิลปะเด็กปฐมวัย
  1.  หลีกเลี่ยงการให้แบบหรือใช้สมุดระบายภาพ
  2.  ต้องช่วยพัฒนาความเป็นตัวของตัวเองให้แก่เด็ก
  3. ไม่บีบบังคับหรือคาดคั้นเอาความหมายจากภาพ
  4. ไม่แก้ไขหรือช่วยเด็กทำผลงาน
  5. ไม่วิจารณ์ผลงานเด็ก
  6. มีส่วนช่วยในการช่วยผู้ปกครองเห็นคุณค่าของงานเด็ก
  7. มีส่วนช่วยในการขยายประสบการณ์ทางศิลปะ เช่น พาเด็กไปทัศนศึกษา

การเตรียมการสำหรับการสอนศิลปะเด็กปฐมวัย
  • สร้างข้อตกลง และระเบียบการใช้วัสดุ อุปกรณ์
  • จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ให้เพียงพอ
  • จัดวางอุปกรณ์ให้สะดวกต่อการใช้งาน
  • การจัดเตรียมเครื่องมือรักษาความสะอาด
  • การจัดเตรียมพื้นที่ในการทำงานอย่างเหมาะสม
  • การจัดเก็บผลงาน การจัดสถานที่แสดงผลงาน


ลำดับขั้นตอนการสอนศิลปะเด็กปฐมวัย
  • ขั้นตอนการสอนศิลปะ
  1. เลือกเรื่องที่จะสอน
  2. กำหนดจุดมุ่งหมายในการสอน
  3. เตรียมการก่อนสอ เตรียมแผนการสอน เตรียมอุปกรณ์การสอน
  4. ทดลองและตรวจสอบอุปกรณ์
  5. ทำการสอนจริงตามแผน
  6. เตรียมตัวเด็กให้พร้อมก่อนการลงมือมำผลงาน เช่นแบ่งกลุ่ม
  7. การปฏิบัติงานของเด็กโดยครูดูแลคอยช่วยเหลือ
  8. การเก็บรักษา ทำความสะอาด
  9. การประเมินผลงานเด็ก

เทคนิควิธีการสอนศิลปะเด็กปฐมวัย

    การสอนศิลปะกับเด็กให้ดีและประสบผลสำเร็จ
  • เข้าถึง   ดูแลเอาใจใส่ เด็กทุกคนเท่าเทียมกันอย่างใกล้ชิด
  • เข้าใจ   ความสามารถ  ความแตกต่าง
  • ให้ความรัก   รักและเข้้าใจ สนับสนุน  ช่วยเหลือ
  • สร้างสรรค์บรรยากาศ  หลากหลายและสนุกสนาน
  • มีระเบียบวินัย มีข้อตกลงในการเรียน
  • ปลอดภัย   คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
    การสอนให้เด็กมีความริเริ่มสร้างสรรค์
  • เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกอย่างเสรี มีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงาน
  • ฝึกหัดให้เกิดการเรียนรู้
  • เรียนรู้การวางแผนงานและการแก้ไขปัญหา
  • ส่งเสริมการแสดงออกหลากหลายรูปแบบ
  • เน้นการเรียนเป็นเล่น
  • สนับสนุน เน้นเรื่องคุณค่าความงาม ความดี

การนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้
  1. ใช้ในการเขียนแผนการสอนศิลปะสำหรับเด็กปฐมวัย
  2. ให้ความสำคัญกับผลงานศิลปะของเด็กทุกๆคนเท่ากัน
  3. การปฏิบัติตัวเป็นคุณครูสอนศิลปะที่ดี
  4. การคิดกิจกรรมที่ดีๆและแปลกใหม่ให้เหมาะกับการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
  5. ใช้ในการจัดกิจกรรมศิลปะสำหรับเด็กปฐมวัย คือ การเชียนแผนการสอน การทดลองก่อนสอน  การเตรียมอุปกรณ์ ขั้นตอนการสอนต่างๆและการประเมินผลงานเด็ก  
  6. ครูต้องให้ความสำคัญกับทุกๆลายละเอียดของงานศิลปะสำหรับเด็กปฐมวัย
  7. นำเรื่องบทบาทครูปฐมวัยไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในอนาคต
  8. นำเทคนิคการจัดกิจกรรมศิลปะไปใช้ได้จริงในอนาคต
  9. นำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้กับเพื่อนและคนที่ยังไม่รู้

ภาพการเรียนการสอน


เรื่อง วัสดุ อุปกรณ์ สำหรับเด็กปฐมวัย


วัสดุที่ใช้ในงานศิลปะ
          วัสดุ คือ สิ่งที่ใช้แล้วหมดไป เช่น กระดาษ สี กาว ฯลฯ
  วัสดุที่ใช้ในการทำผลงานทางศิลปะอาจเป็นวัสดุที่มีขายทั่วไปหรือเป็นวัสดุจากธรรมชาติ หรือที่มีในท้องถิ่น และเหมาะสมกับวัยและวุฒิภาวะของเด็ก หลีกเลี่ยงวัสดุที่เป็นอันตรายกับเด็ก เช่น วัสดุที่มีปลายแหลม   คม แตกหักง่าย  ภาชนะที่เคยบรรจุสารเคมี  หรือน้ำยาต่างๆที่ยังอาจติดค้าง  หรือมีกลิ่นระเหยที่เป็นอันตรายต่อเด็ก

กระดาษ  เป็นวัสดุที่สามารถนำมาใช้สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะ    ได้อย่างกว้างขวางเพราะ หาง่าย ราคาไม่แพง เป็นวัสดุที่เด็กคุ้นเคย เช่น กระดาษวาดเขียน  กระดาษปรู๊ฟ กระดาษโปสเตอร์สีต่างๆ กระดาษมันปู กระดาษจากนิตยสารที่ไม่ใช้แล้ว เป็นต้น
    
         •การนำกระดาษมาใช้กับเด็กครูควรคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งานของกิจกรรมนั้นๆ เพื่อจะได้งานที่ดี สวยงามและเหมาะสม        ไม่ควรใช้กระดาษที่มีราคาแพงจนเกินไป
กระดาษวาดเขียน  ซึ่งมีความหนาไม่เท่ากัน ที่เรียกเป็นปอนด์ มี 60  80  100 ใช้ได้ดีกับงานวาดรูป ระบายสีทุกชนิดสำหรับเด็ก

กระดาษโปสเตอร์  มีทั้งชนิดหน้าเดียว และสองหน้า ทั้งหนาและบาง สีสดใส หลากสี ราคาค่อนข้างแพง ใช้ในงานตัด ประดิษฐ์เป็นงานกระดาษสามมิติเป็นส่วนมาก

กระดาษมันปู  เป็นกระดาษผิวเรียบมันด้านหนา ด้านหลังเป็นสีขาว มีสีทุกสี เนื้อบาง เหมาะกับการทำศิลปะประเภทฉีก ตัด พับ ปะกระดาษ

กระดาษจากนิตยสาร  เป็นกระดาษที่เหมาะในการนำมาใช้กับเด็กเล็กๆ เพราะไม่ต้องซื้อหา เพียงแต่สะสมไว้ ซึ่งสามารถใช้แทนกระดาษมันปูได้เป็นอย่างดี


กระดาษหนังสือพิมพ์ เป็นกระดาษที่ใช้ได้เช่นเดียวกับกระดาษนิตยสาร แต่จะบางกว่า แต่หมึกอาจเลอะมือเด็กได้มากกว่า แต่ก็มีขนาดใหญ่ใช้ในการรองปูโต๊ะหรือพื้นกันเปื้อน ใช้ในงานที่ต้องการกระดาษชิ้นใหญ่ๆ เช่นการทำหุ่นตัวใหญ่ๆ

สี เป็นวัสดุที่ดึงดูดความสนใจของเด็กเป็นอย่างมาก สีที่ใช้ในงานศิลปะของเด็กปฐมวัย เช่น สีเทียน สีฝุ่น สีโปสเตอร์ สีผสมอาหาร สีจากธรรมชาติต่างๆ สีแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและข้อบ่งใช้ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกิจกรรมแต่ละประเภทที่จัดให้กับเด็ก


   สีเทียน ( Caryon )  คือสีที่ผสมกับขี้ผึ้ง    แล้วทำเป็นแท่ง มีหลายสีหลายขนาด สีเทียนที่ดีควรมีสีสด ไม่มีไขเทียนมากเกินไป  สีเทียนที่มีราคาถูกมักมีส่วนผสมของขี้ผึ้งมากกว่าเนื้อสี เมื่อนำมาใช้จะได้สีอ่อนๆ ใสๆ ไม่ชัดเจน มีเทียนไขเกาะกระดาษหนา ควรเลือกชนิดที่มีเนื้อสีมากกว่าเนื้อเทียน มีสีสด แท่งโต เพื่อเด็กหยิบจับถนัดมือกว่าแท่งเล็กและไม่หักง่าย หากซื้อเป็นกล่องควรเปิดดูที่มีสีสดๆ สีเข้มๆมากกว่าสีอ่อนๆ 


ถ้าไม่มีสีขาวเลยจะดีกว่า เพราะเด็กใช้สีขาวน้อย      
• สีชอล์กเทียน (oil pastealเป็นสีที่มีราคาแพงกว่าสีเทียนธรรมดา โดยทั่วไปคล้ายสีเทียน เป็นสีชอล์กที่ผสมน้ำมันหรือไข สีสดใส เนื้อนุ่ม สีหนา เมื่อระบายด้วยสีชนิดนี้แล้ว สามารถใช้เล็บ นิ้วมือ หรือกระดาษทิชชู ตกแต่ง เกลี่ยสีให้เข้ากันคล้ายรูปที่ระบายด้วยสีน้ำมัน สีชอล์กมักจะทำเป็นแท่งกลมเล็กๆ และมีสีมากเกินไปเหมาะสำหรับเด็กโตมากกว่าเด็กเล็ก 


• สีเทียนพลาสติก (plastic crayon)  ผลิตขึ้นจากสีและพลาสติกผสม ทำเป็นแท่งเล็กๆ แข็ง 
มีสีสดหลายสี ใช้ระบายสีง่าย เหลาได้เหมือนดินสอ จึงสามารถระบายในส่วนที่มีรายละเอียดสามารถใช้ยางลบธรรมดาลบบางส่วนที่ไม่ต้องการออกได้ แต่มีราคาแพงมาก   

  สีเมจิก  (Water colorบรรจุเป็นด้ามคล้ายปากกามี 2 ชนิด คือชนิดปลายแหลมและปลายตัด  เป็นสีที่สว่างสวยงามและสดใส เหมาะสำหรับการขีดเขียนลายเส้น หรือการเขียนตัวหนังสือแต่อาจไม่เหมาะสำหรับเด็กระบายสีเนื้อที่กว้าง แต่เด็กเล็กๆ จะชอบเพราะใช้สะดวก สีสด แห้งเร็ว ถ้าเปื้อนล้างออกง่าย


•  ปากกาปลายสักหลาด(felt pen)     บางทีเรียก ปากกาเคมี เป็นปากกาพลาสติก ปากเป็นสักหลาดแข็ง ภายในบรรจุด้วยหลอดสี เมื่อเขียนหมึกจะไหลซึมผ่านปากสักหลาดมาสู่พื้นกระดาษให้สีสดใสมาก ไม่เหมาะในการระบายพื้นที่กว้าง ถ้าทิ้งไว้นานๆ สีจะซีดเร็ว ควรให้เด็กสวมปลอกปากกาทุกครั้งที่เขียนเสร็จ


•  ดินสอ (pencil)  เด็กๆ ส่วนมากอยากใช้ดินสอในการวาดรูป เหมือนผู้ใหญ่ทำกัน แต่อย่างไรก็ดี ไม่ควรใช้ดินสอเป็นเครื่องมือในการวาดรูปสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เพราะการเสดงออกตามธรรมชาติของเด็กจะหดหายไป 


•  ดินสอสี (color pencil)
หรือสีไม้ ดินสอสีก็เช่นเดียวกับดินสอ คือเหมาะสำหรับเด็กโตๆ มากกว่าเด็กเล็กๆ เพราะนอกจากจะหัก ทู่ง่าย ต้องเหลาบ่อยๆ มีราคาแพงมากเมื่อเทียบกับเทียนหรือสีประเภทผสมน้ำ


•  สีประเภทนี้ ได้แก่ 
สีฝุ่น
สีน้ำ        
สีโปสเตอร์
สีผสมอาหาร          
สีพลาสติกผสมน้ำ ฯลฯ            
สีแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะ


•  สีฝุ่น (tempera)  เป็นสีผง ทึบแสง มีหลายสี ใช้ผสมน้ำให้ใสข้นเป็นครีมอาจผสมกาวหรือแป้งเปียกด้วย ขึ้นอยู่กับงานแต่ละชนิด มีราคาถูกกว่าสีประเภทอื่น เก็บไว้ใช้ได้นาน มีขายตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป เวลาใช้ต้องผสมกับของเหลวที่เหมาะสม นอกจากน้ำแล้วก็มีน้ำนม น้ำแป้งและน้ำสบู่


•  สีโปสเตอร์ (poster color) ก็คือสีฝุ่นที่ผลิตบรรจุขวดขาย เป็นสีทึบแสง มีหลายสีใช้ผสมน้ำ เป็นสีที่ผสมเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมใช้เลย ลักษณะคล้ายครีมมีราคาแพงกว่าสีฝุ่น เป็นสีที่เด็กๆ ใช้ง่าย แต่ถ้าต้องการสีอ่อนๆ จะผสมน้ำไม่ได้ จะต้องใช้สีขาวผสมจะได้สีอ่อน ระบายได้เรียบ

•  สีพลาสติก (plastic or acrylic) มีขายตามร้านวัสดุก่อสร้าง บรรจุในกระป๋องหลายขนาด และแบบในหลอด ราคาสูง มีเนื้อสีข้น ระบายได้เนื้อสีหยาบ มีกลิ่น เหมาะกับงานใหญ่ที่ไม่ต้องใช้รายละเอียดมากนัก สามารถใช้แทนสีฝุ่นหรือสีน้ำได้ ข้อเสียคือ แปรงหรือพู่กันจะต้องจุ่มไว้ในน้ำเสมอ ขณะที่พักการใช้ชั่วคราว และจะต้องล้างอย่างดีหลังจากเลิกใช้แล้ว เนื่องจากสีมีคุณสมบัติแห้งเร็วจะทำให้พู่กันหรือแปรงแข็งใช้ไม่ได้



•  สีจากธรรมชาติ จะเป็นสีที่ได้จาก ผัก ผลไม้ ดอกไม้ ใบไม้ ลำต้น ราก หรือ เปลือกของพืช ดิน ฯลฯ เป็นสีที่ไม่สารเคมีเจือปน จึงไม่เป็นอันตราย แก่เด็ก อย่างไรก็ตาม สีจากธรรมชาติบางชนิดก็อาจเป็นอันตรายที่เกิดจากอาการแพ้ในรูปแบบต่างๆ ได้

•  กาว  กาวที่เหมาะสมกับเด็กมากที่สุดคือกาวที่กวนเองจากแป้งมันหรือแป้งข้าวเหนียว เรียกว่าแป้งเปียก ราคาถูก ใช้งานได้ง่ายกว่ากาวชนิดอื่นๆ  ไม่เหนียวเหนอะหนะหรือยืดยาวเป็นเส้น ล้างออกง่าย นอกจากนี้ยังมี กาวน้ำ และ กาวลาเท็กซ์ ส่วนกาวถาวร หรือนิยมเรียกกันว่า กาวตราช้าง หรือกาวร้อน มักใช้ติดงานที่ต้องการความติดแน่นคงทน หากติดมือจะล้างออกยากมากต้องแช่และล้างในน้ำอุ่น เหมาะสำหรับผู้ใหญ่


•  ดินเหนียว หรือดินตามธรรมชาติมีมากในต่างจังหวัด ขุดหาได้ทั่วไป มีความนิ่มเหนียว นำมาใช้ปั้น ตากแห้งหรือเผาเป็นเครื่องปั้นดินเผาได้ ระบายสีได้
•  ดินน้ำมัน เป็นดินที่มีส่วนผสมของน้ำมันผสมอยู่ มีกลิ่นแรง เนื้อนิ่มเมื่อโดนความร้อน และแข็งได้เมื่อเจออากาศเย็น เหนียวติดมือไม่เหมาะกับเด็กเล็กๆ
•  ดินวิทยาศาสตร์ มีลักษณะนิ่ม มีหลายสี ไม่เหนียวติดมือเหมือนดินน้ำมัน และมักจะไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายเจือปน จึงเหมาะสำหรับเด็ก
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสี
1.  สีเป็นองค์ประกอบของศิลปะที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกมากกว่าองค์ประกอบชนิดอื่น
2.  สีเป็นวัตถุที่ได้จากธรรมชาติหรือจากที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นมา
  - สีจากธรรมชาติ เช่น สีของดอกไม้ ใบไม้ ผล ราก ลำต้น
  - สีจากการสังเคราะห์ขึ้นมา เช่น สีน้ำ สีโปสเตอร์ สีอะคริลิก สีฝุ่น สีน้ำมัน สีทาบ้าน สีพลาสติก ฯลฯ




การประเมินการเรียนการสอน


ประเมินตนเอง
  • เข้าเรียนตรงต่อเวลา
  • แต่งกายเรียบร้อย
  • ตั้งใจฟังอาจารย์สอนและจดบันทึกระหว่างเรียน
ประเมินเพื่อน
  • แต่งกายเรียบร้อย เข้าเรียนตรงต่อเวลา
  • ตั้งใจทำกิจกรรมในห้องเรียนอย่างมุ่งมั่น


ประเมินอาจารย์


  • อาจารย์แต่งกายสุภาพ
  • เข้าสอนตรงต่อเวลาและปล่อยตรงเวลา
  • อธิบายในแต่ละหัวข้อการเรียนได้เข้าใจง่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น